ใครชอบสะสมหนังสือการ์ตูน วอลล์ ดีสนีย์ ของ สำนักพิมพ์ บางกอกโฆษณา และการพิมพ์ ( BPPS ) กันบ้างมั้ยครับ
หนังสือการ์ตูนรุ่นนี้ สมัยเด็กๆ ผู้เขียน ผู้เขียนชอบมากเพราะการแปล การบรรยายและสำนวนในการแปล ทำให้การ์ตูนที่เป็นเรื่องไม่น่าสนใจ กลับน่าอ่าน สนุก และ ออกรสมากขึ้น ผิดกับสมัยหลังๆที่ผู้แปล และผู้จัดทำกับสำนักพิมพ์รุ่นหลัง ไม่เข้าใจเรื่อง และความต้องการของนักอ่าน เลยทำให้การ์ตูน วอลล์ ดีนีย์ รุ่นหลังๆ ไม่เป็นที่นิยมนัก
ทั้ง สนพ.บางกอกโฆษณาและการ์พิมพ์นี้ นี้ นับเป็น สนพ. แรกๆที่ได้ลิขสิทธ์จาก บ,วอลล์ ดีสนีย์ ในเวลานั้น ให้สิทธิ์ในการจัดแปล และจัดจำหน่ายในประเทศไทย เป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียว ณ เวลานั้น ที่พูดถึงเรื่องลิขสิทธิ์ อย่างตรงไปตรงมา และนำเอาใบสัญญาเรื่อง ลิขสิทธิ์ มาลงให้นักอ่าน ได้ดูได้ชมกันด้วย
การ์ตูนของ สำนักพิมพ์บางกอกฯ ฉบับแรกๆนี้ เป็นการ์ตูนสีทั้งเล่ม มีโฆษณาต่างๆลงในเล่ม และปกหลัง สมัยแรกๆถือว่ามี สปอนเซอร์สม่ำเสมอ และจากนั้นก็ค่อยๆลดหน้าสีลงเรื่อยๆ และค่อยๆเพิ่มราคาขึ้นทีละนิด ทีละนิด ตามราคากระดาษและหมึกพิมพ์ที่ขึ้นราคาอยู่เรื่อยๆทุกปี
นักอ่านรุ่นเก่า ทั้งนักสะสมหนังสือการ์ตูนเก่ารุ่นก่อน บอกกันว่า สำนักพิมพ์ บางกอกฯนี้ ออกหนังสือมาสมัยแรกๆราวปี พ.ศ. 2508 – 2509 เรียกว่ามาก่อนที่ผู้เขียนจะจำความได้ ราวสักหนึ่งถึงสองปี
จะว่าไปแล้วสมัยนั้นผู้เขียนมารู้ความ และได้อ่านเอาจริงๆก็เล่มเลขสองตัว หรือฉบับที่ สิบกว่าๆไปแล้ว ซึ่งฉบับแรกๆนั้นว่ากันว่า ลงพิมพ์นิยายภาพเรื่องยาว เสียเป็นส่วนมาก ในยุคนั้น นิยายภาพที่ลงตีพิมพ์ มีทั้ง ภาพยนตร์การ์ตูนอย่าง สโนว์ไวท์ กับคนแคระทั้งเจ็ด , ทรามวัยกับอ้ายตูบ, ตุ๊กตาเนรมิต (พิน๊อคชิโอ) ซึ่งที่กล่าวมานั้น ล้วนเป็นภาพยนตร์การ์ตูนด้วยกันทั้งสิ้น
สมัยถัดๆมา บางฉบับ ก็นำภาพยนตร์คนแสดงที่กำลังโด่งดัง หรือเป็นภาพยนตร์ที่เข้ามาฉายในบ้านเรา ณ เวลานั้น มาทำเป็นนิยายการ์ตูน อย่างเช่นเรื่อง ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ ที่วาดรูปละเล่าเรื่อง ได้เสมือนดูจากจอภาพยนตร์ทีเดียว หรืออย่างเรื่อง ไอ้เขี้ยวขาว ที่โด่งดังอยู่ณ ช่วงเวลานั้น แม้เรื่อง ราชากับยาจก ซึ่งพอจะนำทำมาเป็นภาพการ์ตูนคอมมิคส์ ก็อ่านได้สนุกสนานเร้าใจ และดูสนุกไปอีกแบบหนึ่ง
แต่ถ้าให้ผู้เขียนเลือก ระหว่างเรื่องยาวที่นำภาพยนตร์มาเขียนเป็นภาพการ์ตูน สำหรับผู้เขียน แล้ว ผู้เขียนกลับชอบไปเสียทั้งหมดทุกเรื่องราวที่นำเสนอ ทั้งนิยายภาพ ทั้งการ์ตูนเรื่อง
นอกจากนี้ ผู้เขียนยังชอบใน แคแรคเตอร์ หรือตัวละครทุกๆตัว สำหรับตัวที่ชอบมากที่สุดก็เห็นจะเป็น ชุดอัลบั้มการ์ตูน ที่เสนอตัวการ์ตูนยอดฮิต อย่าง โดนัลด์ ดั๊ก , มิคกี้เม้าส์ , ลุงสครู๊ซ
หรือเรื่องราวของ คุณย่าเป็ด เรื่องของหลานชายทั้งสามของโดนัลด์ ดั๊ก คือ ลูอี้ ฮิวอี้ และดิวอี้ หรือหลานสาวสามคนของ เดซี่ดั๊ก อย่าง เอพริล ,เมย์และจูน ก็สนุกไม่แพ้กัน
เรื่องราวของ นักประดิษฐ์ อย่าง จิโร่ เกียลูสส์ ที่ประดิษฐ์อะไรต่อมิอะไรมากมายสารพัน เรื่องราวของ แกลดสโตน แกลนเดอร์ ผู้โชคดี ก็มีให้อ่าน หรือเรื่องราวของ ลูกหมาป่าเจ้าเล่ห์ กับหมูสามตัว ก็สนุก
แม้กระทั่งเรื่องราวสุดฮา ของพี่น้องบีเกิล ที่พยายามจะหาทางปล้นเซฟ สมบัติพันล้าน ของลุงสครู๊ซ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เรื่องเหล่านี้เด็กๆอย่างบรรดา เพื่อนๆของผู้เขียน ในวัยนั้น อ่านได้สนุกไม่รู้เบื่อทีเดียว
สมัยนั้น ผู้เขียนหาซื้อการ์ตูนพวกนี้ ตามร้านหนังสือละแวกบ้าน ร้านค้าที่ว่านี้ มีทั้งร้าน ขายเครื่องเขียน รายขายของเล่น เรื่อยไปแม้กระทั่งร้านขายของชำก็ตามที ยังมีขายเลย
สำหรับผู้เขียนนั้น นานๆได้ออกไปนอกบ้านสักหนหนึ่ง ถ้าครั้งไหนที่ออกไปเที่ยวแล้ว เผอิญพบร้านหนังสือต่างถิ่นที่มีหนังสือการ์ตูนของสำนักพิมพ์บางกอกฯ ฉบับรวมเล่มก็ซื้อมา ฉบับรวมเล่มที่ว่านี้ ทางสำนักพิมพ์ จะเอาหนังสือเล่มที่ออกจำหน่ายไปแล้ว แต่ขายไม่หมดเหลือคืนกลับมา เอามาเย็บรวมสี่เล่ม เป็นเล่มใหญ่เล่มหนึ่ง เรียกว่า ฉบับรวมชุด ขายราคาเล่มละ 10 ถึง 12 บาท ตามแต่ราคาหนังสือในแต่ละยุคสมัย
และเหตุที่ผู้เขียน ต้งออกไปซื้อที่อื่นๆ ก็เพราะว่า แถวๆบ้านผู้เขียนหรือละแวกใกล้เคียงกันนี้ หนังสือการ์ตูนที่ว่านี้ ไม่ได้มาขายทุกฉบับ หรือถ้ามา ก็หมดไวมาก บางทีผู้เขียนเองก็ซื้อไม่ทัน คืนถ้าผ่านไปแล้ว ก็ผ่านไปเลย
ดังนั้นพอเจอที่ไหนก็ต้องรีบซื้อเอาไว้ เจอฉบับรวมเล่มก็พยายามซื้อเอาไว้เลย บางทีก็มีซ้ำบ้างกับเล่มเล็กที่เราซื้อเอาไว้แล้ว ก็ต้องยอม แต่กระนั้น แม้จะพยายามตามซื้อทั้งเล่มบาง และฉบับรวมเล่ม ก็ยังขาดเล่มนั้น เล่มนี้อยู่เสมอ
อีกทั้ง ทางสำนักพิมพ์ ก็ไม่เคยมีปกตัวอย่างฉบับที่ออกไปแล้วให้ดู ฉบับแรกๆนั้น ก่อนที่จะออกเล่มต่อไป จะมีรูปปกฉบับหน้าให้ดุกันก่อน แต่มาหลังๆวิธีการแบบนี้ก็หายไป
ท้ายที่สุด ผู้เขียนก็เลยไม่สามารถจะคาดเดาได้ว่า เล่มแรกๆ หรือเล่มที่หนึ่งนั้น หน้าตาเป็นอย่างไร แต่อาศัยสมัยหลังๆ ทางสนพ. ออกเล่มเล็กฉบับกระเป๋า ราคา 1 บาท ต่อมาเป็น ราคา 1.50 บาทตามออกมาด้วย โดยเล่มพ๊อคเก็ตนี้ นำต้นฉบับจากเล่มเก่าๆที่เคยตีพิมพ์เป็นสีไปแล้ว มาลงพิมพ์ย้อนใหม่เป็นฉบับขาว ดำ
ดังนั้น เรื่องเก่าๆที่ผู้เขียนเกิดไม่ทันอ่าน จึงมาทันอ่านได้ในยุคนี้ แต่กระนั้น ก็ยังขาดเล่มต้นๆที่ไม่ทราบว่าหน้าตาเป็นอย่างไรอีกมาก
มาวันนี้หนังสือการ์ตูนดีสนีย์ ของ สนพ. บางกอกโฆษณา และการพิมพ์ กลายเป็นหนังสือการ์ตูนหายาก และมีราคาแพงไปแล้ว สมัยแรกๆการ์ตูนสีทั้งเล่ม ตกราคาเล่มละ 1.50 ถึง 2 บาท และราคาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จะพยายามตรึงราคาไว้จนสุดท้ายจบลงที่ราคาเล่มละ 8บาท แต่ก็ไม่อาจจะดึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มเยาวชนไว้ได้ ทำให้ต้องปิดตัวลงไปในราวปี พ.ศ. 2523 – 2524
สำหรับท่านที่สนใจ หนังสือการ์ตูน ของสำนักพิมพ์ บางกอกโฆษณา และการพิมพ์ ( BPPS ) ชุดนี้ ซึ่งนับวันก็ออกจะยากเข้าไปทุกทีๆแล้ว ถ้ามีโอกาสพบ หรือเจอเข้าที่ไหน ก็ให้รีบคว้าเอาไว้เลยนะครับ เพราะจากนี้ไปเชื่อว่า หนังสือรุ่นนี้จะหายาก และมีราคาสูงกว่าทุกวันนี้ อย่างแน่นอน