ผู้เขียนเป็นคนต่างจังหวัด หรืแจะเรียกว่า บ้านนอกก็ได้ เมื่อสมัยที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพใหม่ๆ เราก็เลือกอยู่หอพัก ใกล้ที่ทำงาน ชอบแบบที่เดินไปได้ ยิ่งที่ทำงานอยู่แถบขอบเมือง บรรยากาศยังดูเหมือนต่างจังหวัดอยู่จะยิ่งรู้สึกดี
เมื่อทำงานผ่านไปหลายปี ผู้เขียนก็ยังไม่คิดจะซื้อบ้าน เพราะยังไม่เจองานที่จะตั้งรกรากได้ และด้วยการย้ายที่ทำงานบ่อยเพราะเป็นคนธาตุลม (แอบโทษธาตุซะงั้น)จึงเลือกซื้อรถยนต์ก่อนจะซื้อบ้าน
พอมาวันหนึ่งที่น้ำท่วมใหญ่ปี 54 ละมัง บ้านเช่าที่เช่าไว้ทำหน้าที่เก็บของเป็นหลัก เพราะผู้เขียนทำงานที่ค้องเดินทางตลอด ก็โดนน้ำท่วมไปครึ่งหลัง ของเราเสียหายทั้งหมดในส่วนที่น้ำท่วมถึง ราวๆกว่า 2 เมตร
ตอนนั้นค่าเยียวยาตกเป็นของเจ้าของบ้าน ส่วนเราก็ย้ายออกเพราะถึงช่วงหมดสัญญาเช่าพอดี ผู้เขียนอยู่ที่นั่นมาเป็นปีเลย อาศัยเก็บสัมภาระ และพักอาศัยเมื่อเข้ากรุงเทพ
เมื่อเจอเหตุการณ์นั้น ผู้เขียนก็ปรึกษาเพื่อนๆว่าจะทำยังงัยต่อกับที่อยู่ของเรา โดยเพื่อนก็แนะนำว่า ให้มาซื้อบ้านเอื้ออาทรสิิ เพราะเค้าซื้อไว้ตอนโครงการเปิดใหม่ เค้าชอบด้วยเหตุผลหลายอย่าง ที่จะเล่ากันทีหลัง และผู้เขียนก็ได้มาซื้อบ้านเอื้ออาทรจริงๆด้วยเหตุที่เหมาะสมที่สุดในตอนนั้น
สองสามปีต่อมา ที่ผู้เขียนไม่ได้นึกถึงเรื่องบ้านอีกเพราะค่อนข้างลงตัวแล้ว ก็บังเอิญนั่งรถน้องที่ทำงานผ่านโครงการคอนโดแห่งหนึ่ง น้องเค้ายอกว่า มันถูกนะ เออ! ในใจเราตอนนั้นก็เริ่มเก็บไปคิด เพราะอะไร นั่นก็เพราะปัญหาอย่างหนึ่งของเอื้ออาทรคือ ที่จอดรถ ซึ่งจริงๆแล้ว เมื่อย้ายออกมา จึงรู้ว่า นั่นเป็นเพียงปัญหาเล็กๆ เมื่อเทียบกับปัญหาอื่นที่เจอ
เพื่อนหลายคนให้ความเห็นต่างกัน บางคนบอกว่า ราคาขนาดนี้ซื้อบ้านได้เลย บางคนบอก เราไม่ค่อยอยู่ การอยู่คอนโดมียามรักษาความปลอดภัยน่าจะเหมาะกว่า แต่สุดท้ายผู้เขียนเลือก คอนโด เพราะมีทางเข้าออก ได้หลายทาง เรียกว่า เดินทางได้สะดวก แม้จะสะดวกไม่เท่าบ้านเอื้อที่อยู่ห่างกันน่าจะแค่ 1 กม.
มาถึงตรงนี้ ประสบการณ์การซื้อปัจจัย4 ในจ้อที่อยู่อาศัย ผู้เขียนลองมาเกือบครบแล้ว บทคงามต่อไป จะมารีวิว จากมุมมองตัวเอง ที่มีความรู้เรื่องอสังหา้พียงเล็กน้อย