ไม่ได้เขียนมานาน มาแชร์ประสบการณ์ในอาชีพที่เป็นที่คาดหวังของหายๆคนกันต่อ
ถามย้อนนิดนึง ใครบ้างที่ไม่ได้โกหกตัวเองว่า "อยากมีธุรกิจส่วนตัว" แล้วใครบ้างที่ชอบจริงๆ ขอเหตุผลดีๆหน่อยค่า...
"ธุรกิจ" คือ การทำกิจการที่ "หารายได้" และ จะหารายได้ได้ยังงัย ตอนนี้นอกจากการ "การขาย" แล้ว ไม่ว่าจะขายสินค้า หรือ บริการ ก็ยังนึกอย่างอื่นไม่ออก เอาเป็นว่าในที่นี้ ดิฉันจะเรียกมันว่า การขาย แล้วกันนะคะ
ท้าวความกันสักหน่อย ตัวดิฉันเองเกิดมา ไปโรงเรียน เข้าสู่ระบบการทำงานเหมือนคนทั่วไป โชคชะตาพาไปพบบริษัทต่างชาติที่เป็นจุดเริ่มต้น 'สายอาชีพ' ในปัจจุบันของดิฉัน นั่นคือ 'ขาย 'ไป ซะทุกอย่าง ทำไมล่ะ ...
...จำความได้ว่า ตัวเองอยู่ในครอบครัวที่มีระเบียบเรื่อง "การเงิน "มาก เพราะคิดเอาเองว่า ความจำเป็นมันบังคับ เราเป็นครอบครัวใหญ่ที่พ่อแม่ให้ความสำคัญต่อลูก ไม่ว่าจะเป็นเรื้องการอบรมสั่งสอน การวางอนาคต ดังนั้น ค่าใช้จ่ายเรื่องของลูกๆจึงนับเป็นความจำเป็นขั้นที่ 1สำหรับการวาง "บัดเจ็ทค่าใช้จ่าย"
ด้วยการเห็นแบบอย่างแบบนี้มานาน "การหาเงิน" และ "การวางทำแผนการใข้จ่าย" ต่างๆจึงถูกบรรจุในสมองเรา ...และการเริ่มต้นใช้เงินจะเกิดขึ้นหลังจากขั้นตอนการหาเงินเสมอ
ดิฉันเรียนจบก็ทำงานประจำ อย่างที่เรียนให้ทราบข้างต้นว่า โชคดี ที่ได้ทำงานกับ"บริษัท ที่มีระบบดี" นายดี และเราได้เรียนรู้สิ่งดีๆกับสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม และมี "เพื่อนร่วมงาน "ที่เปี่ยม "ศักยภาพ " แน่นอน ที่นี่ไม่ใช่สวรรค์ของ"คนขี้เกียจ " และคนที่ "เฉื่อย เรื่อยเปื่อย ชอบพูดมากกว่าทำ" เราทุ่มเทการทำงานและเรียนรู้อย่างเต็มที่กับ เราได้รับ "เงินเดือน"ที่มาก กว่าความคาดหวัง ในขณะเดียวกันเมื่อถึงวันหยุด ดิฉันก็ยังค้นหา "อาชีพเสริม" ว่ายังมี "โอกาส" อยู่ที่ใดอีกบ้าง และอะไรบ้างที่ดิฉันทำได้ภายใต้ 'ข้อจำกัด' ที่มี
แต่ด้วยความที่ร่างกายคนมีขีดจำกัด ดิฉันไปทำงานตั้งแต่เจ็ดโมงเข้ากว่าๆและเลิกงาน ราวๆ2ทุ่มเป็นประจำ แต่ไม่ใช่ว่าจะใช้แต่แรงกาย แต่เราได้ "เรียนรู้ "พัฒนางานและ ตัวเองไปพร้อมๆกัน
ความเชื่อคือ ความรู้ไม่ไปไหน มันก็อยู่ในหัวเราตลอดไป ซึ่งจนถึงวันนี้มันก็กลายเป็นนิสัยเราไปเลย
แม้ดิฉันจะไม่ค่อยได้ดำรงตำแหน่งที่มีว่า ขาย หรือ Sales นำหน้าหรือตามหลังมากนัก แต่หน้าที่ของดิฉันคือทำให้หน้าที่รับผิดขอบในกิจการนั้นๆมี "รายได้"และมี "กำไร"
และนี่คือ "ความต้องการขั้นพื้นฐาน" ของทุกกิจการ....
ทำอย่างไร ... แน่นอนว่าบริษัทใหญ่ๆนั้น มีคนทำงานร่วมกันมากมาย หลายระดับ หลายตำแหน่ง และหน้าที่หลักของดิฉันก็คือรับผิดชอบแผนกตัวเอง โดยมีหัวหน้า ผู้ช่วย ผู่ใต้บังคับบัญชา เรามี "เป้าหมายเดียวกัน" หากใครไม่ประสงค์จะเดินเส้นทางเดียวกับเรา และรู้สึกขัดแย้งจนปรับทัศนคติไม่ได้ เค้าคนนั้นก็จะจากเราไป ซึ่งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง เราก็มีความจำเป็นต้องไปให้ถึง "เป้าหมาย" เพราะไม่เพียงแต่เรารับ "เงินเดือน" ที่เป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทแต่เรายังต้องการการพัฒนาสมองตัวเอง "ท้าทาย" ความสามารถตัวเอง และ "ความสำเร็จ "คือการเดินถึงเป้าหมายที่วางไว้
ผ่านมาหลายบริษัทในระยะเวลา หลายสิบปี เราเรีบนรู้หลายสิ่งที่จะนำมาปรับใช้กับ "กิจการส่วนตัว" การทำงานกับคนอื่นเป็นเรื่องยากเพราะคนหลายคนที่มาจากหลากหลายสังคม แต่การทำงานคนเดียวก็ยังมีความยุ่งยากในแง่อื่นๆ เพราะทุกตำแหน่งเราต้องทำเอง โดยที่เราอาจเชี่ยวชาญแค่บางเรื่อง และอ่อนแอในอีกหลายเรื่อง
แค่ปัจจุบัน การทำธุรกิจเล็กๆเป็นเรื่องง่ายขึ้นเพราะมี"ระบบ" เข้าช่วย แต่สำหรับดิฉันสิ่งสำคัญก็คือเรื่องของ "การวางแผนการเงิน" "การหารายได้" "การใช้จ่าย"
ทำไมเราถึงหารายได้ไม่เท่ากับ "เงินเดือน" ที่เคยได้รับ... อาจจะมีหลายคนที่ "ลาออก" มาทำ "กิจการของตัวเอง" เคยมีคำถามนี้ปรากฏในหัว... หากคุณไม่เคยมีคำถามนี้ก็ถือว่าคุณกำลังประสบความสำเร็จ ไปได้สวย แต่หากคถณกำลังเผชิญปัญหานี้ ก็ขอแนะนำว่าให้ทบทวนใหม่ ... ยังไงล่ะ
สมัยทำงานประจำสมมุติว่า เราได้รับ "เป้าการขาย" มา เดือนละ 1 ล้านบาท เรานำมาเฉลี่ยเป็นรายวัน ก็วันละ 3หมื่นกว่าๆโดยประมาณ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับวันข้างขึ้นข้างแรมด้วย
และ เมื่อย่อยเป้าใหญ่ออกมาได้แล้ว เราก็มาพิจารณาถึง "พฤติกรรมการซื้อ" ของ ๆ "ลูกค้า" ของเรา หากเค้าซื้อครั้งละชิ้น ชิ้นละ 1,000 หมายความว่า อย่างต่ำ ต่อวัน เราจะต้องมีลูกค้ามากกว่า 30 คน และทีนี้ก็มามองต่อว่าเราจะหาคนมาซื้อได้จากไหน
สำหรับท่านที่เจอปัญหาว่า เรามีลูกค้าเต็มที่วันละ 20 คน ทำไง ...หากเกิดปัญหานี้ ที่เราเคยทำคือ เพิ่มการซื้อของคนที่มี จากซื้อ 1 ขิ้น ให้เค้าซื้อ 1.5ชิ้นโดยเฉลี่ยได้มั้ย อาจจะมีสินค้าอื่นเพิ่มด้วยก็ได้
หากใครที่มีปัญหาว่า ไม่มีลูกค้า ก็ลองพิจารณาดูว่า สินค้าที่คุณขายนั้น คนส่วนใหญ่เค้าซื้อกันที่ไหน หมายความว่า คนที่จะเป็นลูกค้าเราอยู่ที่ไหน เราก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน
ที่เหลือก็มามองตัวเองว่าเราเป็นคนขายหรือคนให้บริการที่ได้มาตรฐานหรือไม่ อย่างไร หรือว่า หากเราไม่ขายเอง แต่ "จ้างคนอื่น" ขาย แล้วคนๆนั้นทำงานให้ไม่ได้ตรงไหน รู้จักสินค้าที่เค้ารับผิดชอบหรือไม่ มีประสบการณ์ หรือสอนได้หรือไม่ "เปิดและ ปิดการขาย" เป็นหรือไม่ เป็นพวก "นักล่า " หรือว่า เป็นพวกรอสวรรค์มาโปรด หากเราพัฒนาพนักงานของเราได้ เค้าก็จะเป็นแขนและขาให้เรา แค่หากเราโทษ "โชคชะตา" หรือมองปัญหาไม่ออก ก็ขอให้กลับมามองตัวเองว่า เราเหมาะที่จะ "ทำธุรกิจส่วนตัว" หรือไม่ เพราะมันต้องใช้ "แรงขับมหาศาล " และสิ่งที่ทำคือ "สิ่งที่รัก" ใช่หรือไม่ เพราะเราต้องทุ่มเทให้กับมัน แต่หากไม่ตอบโจทย์สักอย่างก็หาสิ่งใช่ และสิ่งที่ชอบจริงๆ โลกนี้ไม่มี "ความล้มเหลวถาวร " มีแค่การ "ล้มเลิก "และ "ยอมแพ้" เพราะเราไม่เห็นว่ามันสำคัญ หรือไม่สำคัญพอจะจัดให้มันเป็นเฟิร์สไพรออริตี้ สุดท้าย เมื่อ 'รู้จักตัวเอง' จริงๆแล้ว คุณอาจเจอทางที่ตอบโจทย์ของชีวิต ... อย่าปล่อยให้ "เวลาอันมีค่าผ่านไปอย่างไร้ค่า"

