สวัสดีต้นเดือนตุลาคมค่ะ
เดือนนี้เป็นเดือนแรกของไตรมาสสุดท้ายแล้วนะคะ ใครที่ทำงานด้าน บริหารยอดขาย หรือเป็น เจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ ต่างๆ อาจเป็นช่วงโอกาสสุดท้ายที่จะเร่งหรือตีตื้น ผลประกอบกอบการ ที่ทำมาแล้วทั้งปีค่ะ ส่วนใครที่เก็บคะแนนไว้ดี โบนัส คงไม่ไปไหนแล้วล่ะค่ะ
การทำงานไม่ว่าเราจะเป็น เจ้าของกิจการส่วนตัว หรือ ลูกจ้างบริษัท สิ่งที่เราต้องเจอแน่ๆก็คือ งาน กับ คน และทั้งสิงสิ่งนี้ก็คือ ความท้าทาย ที่ต่างกัน การทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็นบทบาทของ หัวหน้างาน หรือ ลูกน้อง ต่างก็มีหน้าที่รับผิดชอบซึ่งกันและกัน การทำงานแบบสอดประสานกันย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี หากเราเปิดกิจการของตัวเอง แล้วได้ผู้ช่วยดี คงจะแบ่งเบางานเราไปได้ เราก็มีโอกาสคิดหาแนวทางการขายใหม่ๆเพิ่มขึ้น หรือ รุกตลาด ไปข้างหน้าได้
วันนี้ แอดมินจะนำประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับ การทำงานร่วมกัน จากนักคิดนักเขียนชั้นแนวหน้ามาฝากกัน
หลายๆองค์กรให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมอย่างมาก อย่างที่มีกิจกรรม ‘ทีม บิ้วดิ้ง’ ที่มักสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับทีมงานได้เป็นอย่างดี แต่หากเราเป็นกิจการเล็กๆ คนไม่มากนัก หัวหน้าทีม หรือ เจ้าของกิจการ มักเป็นบุคคลสำคัญที่ต้องนำทีมงานให้ไปในทิศทางเดียวกัน
การเป็น หัวหน้า หรือ ผู้นำ ที่ดี อาจช่วยทีมงานของตนให้สามารถทำงานได้ดี หรือมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ที่เรียกว่า มี Productivity แล้วเราจะสามารถดึงเอาความรู้ความสามารถของพนักงานของเราออกมาใช้ได้เต็มประสิทธิภาพได้อย่างไร
Steve Chandler และ Duane Black ได้เขียนไว้ในหนังสือ The Hands-Off Manager หรือ วิธีสร้างแรงจูงใจคน และกระตุ้นให้เขาดึงศักยภาพออกมา เพื่อทำงานให้สำเร็จได้ด้วยตัวเขาเอง โดยที่คุณไม่ต้องแทรกแซงการทำงานของเขา แปลโดย สุดาวรรณ อริยะทรัพย์ หนังสือเล่มนี้ต้นฉบับชื่อว่า How to Mentor People and Allow Them to be Successful
“ จงมองให้เห็นศักยภาพของคนให้ลึกซึ้งกว่าที่เขามองเห็นตัวเอง จากนั้น สร้างแรงจูงใจและชักจูงให้พวกเขามองเห็นศักยภาพในตัวของพวกเขาได้เช่นเดียวกับที่คุณเห็น” หนังสือเล่มนี้จะไกด์คุณไปสู่การดึงศักยภาพ ทีมงาน ออกมา
บางครั้งตัวเราเองที่เป็น เจ้าของกิจการ หรือหัวหน้างาน อาจมีความยึดติดอยู่บ้าง หรือที่เรียกว่า อีโก้ หากเราเองเริ่มจากเปลี่ยนที่ตัวเองก่อน โดย มองไปที่ ผลลัพธ์ ที่เราต้องการ อาจทำให้การปรับอะไรหลายๆอย่างง่ายขึ้น การบอกให้ใครทำอะไร จึงไม่ได้ฟังดูเหมือนเป็น คำสั่ง เสมอไป และผู้ที่รับคำสั่งนั้นเอง ก็อาจจะรู้สึก เต็มใจทำงาน ให้เรา หรือแม้แต่เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และทำให้งานออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ก็เป็นได้
หนังสือ “เป็นหัวหน้าที่ดี ไม่ใช่อยู่ที่ดวง” ของ เชอริล ไรมอลด์ เรียบเรียงโดย จิระจิตต์ ราคา จะแนะนำวิธีที่หลายคนอาจจะอยากเปิดมุมมองใหม่
หนังสือเล่มนี้ เหมาะกับ ผู้บริหาร ในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้าแผนก หัวหน้าส่วน ผู้บริหารระดับสูง แพทย์ หรือ เจ้าของกิจการ
หนังสือเล่มนี้จะเสนอเทคนิคต่างๆ ที่ช่วยแบ่งเบาภาระในการบริหารงานของคุณ ขจัดความสับสนวุ่นวายในการทำงานให้น้อยลง ช่วยให้คุณแบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ อย่างเป็นระเบียบแบบแผน หากคุณปฏิบัติตามเทคนิคต่างๆเหล่านี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระในการบริหารงานของคุณ รู้จักจัดการเรื่องเวลา จนเป็นที่ยอมรับของผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อคุณมีเวลาและบุคลากรพร้อมที่จะบริหารงาน คุณจะพบว่า ผลตอบแทน ที่ได้รับก็คือ ธุรกิจ ที่คุณบากบั่นสร้างขึ้นมานั้น ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังมีหัวข้อที่น่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาดดังนี้
หลายคนที่อายุยังน้อย แต่ทำงานเก่ง ทำให้โอกาสการเป็น หัวหน้างาน หรือ ผู้บริหาร มาถึงเร็ว ซึ่งบางครั้งตนเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว และการเก่งงานนั้นไม่ได้รวมถึงการเก่งคนเสมอไป หลายท่านอาจเคยเจอปัญหาหนักใจเรื่องของลูกน้องที่อาจจะเรียกว่าไม่ได้ดังใจ หนังสือ “ผู้นำที่ชนะทุกสถานการณ์” หรือ “Greatest Business Leader”โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา อาจเป็นอีกไอเดียหนึ่งที่ตอบโจทย์ปัญหาของหลายท่าน
หนังสือเล่มนี้เจาะลึกการเป็นผู้นำตั้งแต่ขั้นเตรียมพร้อม ไปจนถึงจุดสูงสุดผ่านตัวละคร “ซีล” บีเวอร์วัยเยาว์ที่ต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆเพื่อ สั่งสมประสบการณ์ พัฒนาตนเอง ให้กลุ่มยอมรับ เป็นเรื่องราวเชิงเปรียบเทียบ สอดแทรกแง่คิดในการ มุ่งสู่ความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมแห่งยุค
การบริหารจัดการทีมงาน คือ บริหารคน เป็นศาสตร์ ที่สร้างประดยชน์ให้แก่ทุกองค์กร มีนักคิด นักเขียนระดับแนวหน้าหลายท่าน ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ อย่างหนังสือเรื่อง “100 วิธี ทำให้คนยอมทำงานให้เรา ด้วยความเต็มใจ และมีแรงจูงใจที่ดี” โดย Steve Chandler และ Scott Richardson หนังสือเล่มนี้มาจากหนังสือภาษาอังกฤษชื่อ “100 Ways to Motivate Others” How Great leaders can produce insane results without driving people crazy
หนังสือเล่มนี้แนะวิธีจูงใจให้คนอยากทำงาน ทำด้วยความเต็มใจ และมีแรงบันดาลใจ ซึ่งจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง โดยไม่ต้องสั่งหรือบังคับขู่เข็ญให้ทำงาน ซึ่งบางท่านอาจมีประสบการณ์เลวร้ายแบบนี้มาบ้าง นอกจากคุณจะเป็นคนโชคดี ได้เจอผู้ทำที่มีวุฒิภาวะ และมุ่งที่ผลลัพธ์การทำงานขององค์กร
หนังสือเล่มนี้พิมพ์มาแล้ว 27 ครั้ง เค้าบอกอะไรเกี่ยวกับการสร้างผลลัพธ์ที่ดีในงาน โดยการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ทำงานบ้าง
โลกนี้คงไม่มีอะไรเปอร์เฟค แนวคิดต่างๆหากตรงจริตเราที่จะนำมาฝึกฝน นำมาปรับใช้ได้ ประโยชน์ก็น่าจะกลับมาหาตัวเราเอง การที่มีทีมงานดี ผลประกอบการดี คงไม่ต้องบอกว่าเราจะรู้สึกอย่างไร การทำงานคนเดียวย่อมได้งานไม่เท่าการทำงานหลายคน หลายความคิด หลายแรงงาน ย่อมเกิดผลลัพธ์ที่ต่างกัน หนังสือ “ผู้นำ นำอย่างไรให้ได้ใจทีมงาน” โดย เจ. โดนัลด์ วอลเตอร์ส์ เป็นอีกเล่มหนึ่งที่กล่าวเกี่ยวกับการเป็นผู้นำ หนังสือเล่มนี้เสนอแนวคิดสำหรับผู้นำที่จะให้ ได้ใจ ทีมงาน The Art of Supportive Leadership การเป็นผู้นำที่คอย Support ทีมงาน หนังสือเล่มนี้บอกว่า
“ เวลามีการวางเป้าหมายในการทำงาน คำถามมักเกิดขึ้นในใจเราเสมอ ก็คือว่าเราจะ เอาคน หรือ เอางาน เพราะบางครั้ง เรามักจะพบเสมอๆว่า สองสิ่งนี้มักไปคนละทาง” ใครบางที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้
“ท่านคงจะทราบว่า ภายใต้สภาวะแบบนี้ แนวโน้มความเป็นไปได้ของการตัดสินใจ คือ มักขึ้นกับบุคลิค หรือแบบอย่างของผู้นำ ปัญฆาที่เกิดขึ้นก็คือว่า ผล้วผู้นำแบบไหนล่ะที่เหมาะสม? ….”
เรามุ่งประเด็นของการพัฒนาตัวเองไปสู่การเป็น ผู้นำ หรือ หัวหน้า ที่ดี มาหลายตำราแล้ว หากทำได้ตามนั้น เราจะได้ลูกน้องดี ได้ ทีมงานดี ใช่หรือไม่ แต่เดี๋ยวก่อน โลกไม่ได้สวยเสมอไป มีมั้ยที่หลายครั้งเราเองก็เคยเป็นเด็กดื้อ หลายครั้งเราเองก็เป็นคนขี้หมั่นใส้ และเราเองก็มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาบงการ 555 ในแง่ของตัวตนนั้นมันหลากหลาย แต่ในแง่ของงาน หากมองไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อผลประโลชน์ขององค์กรร่วมกัน ปัญหาย่อมไม่เกิดขึ้นมากมายนัก แต่ในฝูงแกะมักมีแกะดำเสมอ ทำยังงัยดีล่ะ
…. American Management Association ได้จัดทำหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งชื่อ “เทคนิคจัดการกับลูกน้องเจ้าปัญหา” ศิลปะในการจัดการกับคนที่มีปัญหา และปัญหาที่มีกับคน โดยคุณเป็นผู้ชนะตลอดกาล…เรียบเรียงโดย สมชาย สัมฤทธิ์ทรัพย์ หนังสือเล่มนี้รวบรวมบทความในคอลัมน์ยอดฮิต Supervisory Sense ของสมาคมการจัดการแห่งอเมริการ ซึ่งจะช่วยไขคำตอบที่คาใจคุณมานาน
หนังสือหลายเล่มแนะวิธี หรือแนวปฏิบัติ แต่ก็เป็นเพียงไอเดียให้เรานำมาปรับใช้กับสถานการณ์ใครสถาการณ์มัน หวังว่าหลายท่านที่มุ่งการพัฒนาจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย แนวทางนี้ไม่จำเป็นต้องนำไปใช้กับงานเพียงอย่างเดียว บางทีเราเองก็อาจจะปรับใช้กับเพื่อน พ่อ แม่ พี่น้อง หรือคนรอบข้าง เมื่อต้องการขอให้พวกเราทำอะไรสักอย่างให้เราก็เป็นได้ และเราอาจจะได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงอีกด้วย ขอให้ทุกท่านโชคดีค่ะ